top of page

วงเงินคุ้มครองการเบิกใช้สิทธิ์ พรบ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ


ขอประชาสัมพันธ์การปรับเพิ่มวงเงินคุ้มครองการเบิกใช้สิทธิ์ พรบ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 หรือที่เราเรียกกันในปัจจุบันว่า " ประกัน พรบ.ฯ หรือ เบิก พรบ.ฯ " โดย คสช. ประกาศปรับเพิ่มโดยยึดวันที่เกิดเหตุตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2557 เป็นต้นมา โดยผู้ประสบภัยจากรถมีสิทธิ์เบิกใช้สิทธิ์ แบ่งเป็น 2 วงเงิน ดังนี้ 1. การเบิกใช้สิทธิ์ พรบ.​ ในวงเงินค่าเสียหายเบื้องต้น ค่าเสียหายเบื้องต้น ให้ความคุ้มครองแก่ผู้ประสบภัยจากรถ ทุกคนที่ประสบภัยจากรถคันที่ขับขี่หรือนั่งซ้อนท้ายมา กรณีรถจยย.หรือนั่งโดยสารมาในรถกรณีรถยนต์ รวมถึงคนเดินถนน ที่ไม่ได้ขับขี่หรือซ้อนท้ายหรือโดยสารในรถคันอื่นๆ โดยไม่ต้องรอสรุปผลทางคดี ( หมายความว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุ ทำให้มีผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต หรือสูญเสียอวัยวะ พรบ. จะคุ้มครองผู้ประสบภัยทุกคนทันที ) ตามลักษณะความเสียหายดังนี้ 1.1 กรณีบาดเจ็บ เบิกจ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาล ในวงเงินตามที่รักษาจริงไม่เกิน 30,000 บาทต่อคน ( ปรับเพิ่มจากเดิมคุ้มครองเพียง 15,000 บาท) เช่น บาดเจ็บเล็กน้อย ค่ารักษาตามใบเสร็จ 5,720 บาท ผู้ประสบภัยจะเบิกเองหรือมอบอำนาจให้รพ. ตั้งเบิกกับบริษัทกลางฯ ผ่านระบบออนไลน์ ( e-claim online หรือระบบสินไหมอัตโนมัติ โดยบริษัทฯ จะโอนเงินจ่ายคืนรพ.ภายใน 7 วันนับแต่วันที่รพ. ส่งเรื่องตั้งเบิก) กรณี บาดเจ็บปานกลาง ถึงสาหัส มีค่ารักษา 30,000 บาท เบิกได้ 30,000 บาท โดยบริษัทกลางฯ​ จัดทำระบบ สินไหมอัตโนมัติและประสานขอความร่วมมือรพ. ทุกแห่งเข้าใช้ระบบ เพื่อลดภาระของประชาชนและผู้ประสบภัยจากรถ โดยรพ.เป็นผู้รับมอบอำนาจเบิกจ่ายจากบริษัทกลางฯ​ แทนปชช. ซึ่งปัจจุบัน ทุกรพ.​ จะรับมอบอำนาจเบิกแทนประชาชนอยู่แล้วค่ะ และหากกรณีบาดเจ็บสาหัส มีค่ารักษาเกินกว่า 30,000 บาท จะเบิกใช้สิทธิ์ได้จากวงเงินค่าเสียหายเบื้องต้นไปก่อน 30,000 บาท ส่วนเกินที่เหลือ ผู้ประสบภัยหรือทายาท สามารถตัดสินใจเบิกส่วนเกินดังกล่าวจาก - สิทธิ์บัตรทอง 30 บาท ( ถ้ามี) - สิทธิ์ประกันสังคม ( ถ้ามี) - รอดูผลสรุปทางคดี กรณีมีคู่กรณี โดยหากคู่กรณีหรือ ผู้ขับขี่เป็นฝ่ายประมาท เช่นผู้ประสบภัยเป็นผู้โดยสารในรถจยย.รับจ้าง ขับขี่ประมาทไปล้มเอง ไม่มีคู่กรณีเฉี่ยวชน ลักษณะเหตุแบบนี้ ผู้โดยสารจะได้รับความคุ้มครองสูงสุดกรณีบาดเจ็บ ในวงเงินค่าสินไหมทดแทน ตามข้อ 2. ค่ะ 1.2 กรณีทุพพลภาพหรือสูญเสียอวัยวะ โดยนิยามของ พรบ.ฯ กำหนดลักษณะของการสูญเสียอวัยวะตั้งแต่ 1 ข้อนิ้วขึ้นไป เช่น นิ้วขาด ครึ่งข้อ ไม่ถือเป็นการสูญเสียอวัยวะ กรณีนิ้วนิ้วใด ๆ ขาด 1 ข้อ หรือ สูญเสียมือทั้งมือ แขนทั้งแขน เบิกใช้สิทธิ์กรณีทุพพลภาพหรือสูญเสียอวัยวะ ได้จำนวน 35,000 บาทต่อคน (สามหมื่นห้าพันบาทถ้วน)​ 1.3 กรณีถึงแก่ชีวิต เบิกจ่ายเป็นค่าปลงศพ จำนวน 35,000 บาทต่อคน (สามหมื่นห้าพันบาทถ้วน) สรุปวงเงินคุ้มครองกรณีค่าเสียหายเบื้องต้น คุ้มครองสูงสุด 65,000 บาทต่อคน (หกหมื่นห้าพันบาทถ้วน) เนื่องจากผู้ประสบภัยจากรถ อาจได้รับบาดเจ็บสาหัส หรือสูญเสียอวัยวะ และอาจถึงแก่ชีวิตได้ หรืออาจเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ สามารถเบิกใช้สิทธิ์ในแต่ละลักษณะของการบาดเจ็บ 2. การเบิกใช้สิทธิ์ พรบ.​ ในวงเงินค่าสินไหมทดแทน เป็นการเบิกใช้สิทธิ์หลังจากสรุปผลทางคดีแล้ว ว่าผู้ขับขี่รถคันใดเป็นฝ่ายประมาท ผู้ประสบภัยทุกคนจะเบิกใช้สิทธิ์จากวงเงินที่ใช้ไปแล้ว จากวงเงินคุ้มครองสูงสุดต่อคน ได้จากกรมธรรม์คันที่เป็นฝ่ายผิด โดยเบิกจ่ายจากลักษณะความเสียหาย 3 ลักษณะเหมือนค่าเสียหายเบื้องต้นแต่วงเงินคุ้มครองสูงกว่า และเพิ่มการเบิกใช้สิทธิ์อีก 1 กรณี รวมเป็น 4 กรณี ดังนี้ 2.1 กรณีบาดเจ็บ เบิกเป็นค่ารักษาพยาบาล วงเงินคัมครองสูงสุดต่อคน 50,000 บาท (ห้าหมื่นบาทถ้วน) โดยหากผู้ประสบภัยเบิกใช้สิทธิ์ค่าเสียหายเบื้องต้นไปแล้ว 30,000 บาท (สามหมื่นบาทถ้วน) จะเหลือสิทธิ์เบิกค่ารักษาพยาบาลอีก 20,000 บาท(สองหมื่นบาทถ้วน) 2.2 กรณีทุพพลภาพหรือสูญเสียอวัยวะ วงเงินคัมครองสูงสุดต่อคน 200,000 บาท (สองแสนบาทถ้วน) โดยหากผู้ประสบภัยเบิกใช้สิทธิ์ค่าเสียหายเบื้องต้นกรณีสูญเสียอวัยวะไปแล้ว 35,000 บาท (สามหมื่นห้าพันบาทถ้วน) และเบิกค่ารักษาพยาบาลไปอีก 30,000 บาท(สามหมื่นบาทถ้วน) จะเหลือสิทธิ์เบิกค่าสินไหมทดแทน = 200,000 - 35,000-30,000 จะเหลือสิทธิ์อีก 135,000 บาท(หนึ่งแสนสามหมื่นห้าพันบาทถ้วน) 2.3 กรณีเสียชีวิต วงเงินคัมครองสูงสุดต่อคน 200,000 บาท (สองแสนบาทถ้วน) โดยหากผู้ประสบภัยเบิกใช้สิทธิ์ค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นค่าปลงศพไปแล้ว 35,000 บาท (สามหมื่นห้าพันบาทถ้วน) และเบิกค่ารักษาพยาบาลไปอีก 30,000 บาท(สามหมื่นบาทถ้วน) จะเหลือสิทธิ์เบิกค่าสินไหมทดแทน = 200,000 - 35,000-30,000 จะเหลือสิทธิ์อีก 135,000 บาท(หนึ่งแสนสามหมื่นห้าพันบาทถ้วน) หรือ กรณีทายาทผู้ประสบภัย เบิกใช้สิทธิ์ค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นค่าปลงศพ อย่างเดียวเป็นจำนวน 35,000 บาท (สามหมื่นห้าพันบาทถ้วน) โดยไม่ได้เบิกค่ารักษาพยาบาล จะเหลือสิทธิ์เบิกค่าสินไหมทดแทน = 200,000 - 35,000 จะเหลือสิทธิ์อีก 165,000 บาทต่อคน(หนึ่งแสน หกหมื่นห้าพันบาทถ้วน) 2.4 เบิกเป็นค่าชดเชยกรณีนอนพักรักษาตัวในรพ. วันละ 200 บาทต่อคน สูงสุดไม่เกิน 20 วัน รวมวงเงินสูงสุด =200*20 =4,000 บาท(สี่พันบาทถ้วน) เช่นนอนพักรักษาตัวในรพ. 5 วัน จะได้รับค่าชดเชย 200*5 วัน = 1,000 บาท รวมวงเงินคุ้มครองสูงสุดต่อผู้ประสบภัย 204,000 บาท (สองแสนสี่พันบาทถ้วน) ต่อผู้ประสบภัย ซึ่งการทำความเข้าใจในการเบิกจ่ายจากสิทธิ์ พรบ. เป็นการเบิกตามเงื่อนไขตามกฏหมาย การอธิบายให้ประชาชนเข้าใจโดยละเอียด เป็นเรื่องยากค่ะ จึงขออนุญาติเรียนแนะนำให้ผู้สนใจและผู้พบปัญหา โทรสอบถามได้ที่สายด่วน Call Center บริษัทกลาง ฯ หมายเลข 1791 หรือเข้าไปติดต่อสอบถามที่จนท.บริษัทกลางฯ ซึ่งมีสาขาเปิดให้บริการอยู่ทุกจังหวัด หรือหน่วยบริการประชาชนของบริษัทกลางฯ​ ที่รพ. จังหวัดทุกแห่ง โดยบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด มีเวปไซต์เช็คข้อมูลเบอร์โทรสาขาทั่วประเทศ ที่ www.rvp.co.th จึงขอเรียนประชาสัมพันธ์ข่าวสารให้ทุกท่านได้ทราบ และขอขอบคุณ Pantip.com ที่เปิดช่องทางการสื่อสารสารสาธารณะนี้ ขอบคุณค่ะ ขอแสดงความนับถือ Surat rungareee พนักงานบริษัทกลางฯ​ ผู้ให้ข้อมูลค่ะ ติดต่อสอบถามข้อมูลผ่าน Facebook ได้ที่ surat rungaree ค่ะ ปล. อย่าลืมประกัน พรบ. กันนะคะ เบี้ยประกันภัยกรณีรถจยย. เพียง 323 บาท (​กรณี ซีซีรถไม่เกิน 125 ซีซี ) เท่ากับเสียเบี้ยวันละไม่ถึง 1 บาท แต่คัมครองสูงสุดต่อคนถึง 204,000 บาท ( วงเงินสินไหมทดแทน ) หรือ 65,000 บาทต่อคน ( วงเงินค่าเสียหายเบื้องต้น) โดยปัจจุบันคุ้มครองเกือบทุกกรณี ทั้งกรณีผู้ขับขี่ไม่มีใบขับขี่ ทะเบียนขาด เมาสุรา ฯลฯ ก็สามารถเบิกใช้สิทธิ์ได้เนื่องจากเป็นการเยียวยาประชาชนผู้ประสบภัยจากรถเพื่อลดผลกระทบทางอุบัติเหตุทางรถค่ะ โดยรถจยย.ทุกคันสามารถทำประกันภัยได้ ทั้งรถเก๊าเก่า รถใหม่ป้ายแดง คุ้มครองเท่ากันค่ะ

Featured Posts
Check back soon
Once posts are published, you’ll see them here.
Recent Posts
Archive
Search By Tags
Follow Us
  • Facebook Basic Square
  • Twitter Basic Square
  • Google+ Basic Square
Moto-Group-บริษัทในเครือ.jpg
bottom of page